เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2555 ชาวบ้านชุมชนบ้านถ้ำจำนวนประมาณ 120 คน มารวมตัวกัน ที่ถนนลูกรังทางเข้าสวนยางพาราของชาวบ้าน ม.2 ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เพื่อแสดงการคัดค้าน กรณีที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 34 ซ.9 ถ.พูนผล ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เข้ามาจัดซื้อที่ดินจำนวน 1 แปลง เนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ ที่ดินตั้งอยู่ที่ ม.2 บ้านถ้ำ ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง เพื่อก่อสร้างเป็นที่ทำการสาขาหน่วยกู้ชีพ-กู้ภัยมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต โดยขณะนี้ได้ทำการปรับพื้นที่ในที่ดินดังกล่าวแล้ว
โดย นายปราโมทย์ สวัสดิ์รักษา อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/2 ม.2บ้านถ้ำ ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา อาชีพค้าขาย กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านไม่เห็นด้วย เนื่องจากหมู่บ้านถ้ำ มีราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนยางพาราและต้องทำงานช่วงเวลากลางคืน ที่สำคัญเป็นหมู่บ้านที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดพังงา คือ วัดถ้ำสุวรรณคูหา ที่มีชื่อเสียงและมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมวันละไม่ต่ำจากสามร้อยคน จึงเป็นการไม่เหมาะสมถ้ามีรถขนศพวิ่งผ่านหมู่บ้านอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งชาวบ้านส่วนหนึ่งที่ครอบครองที่ดินอยู่ใกล้บริเวณที่เก็บศพพักศพดังกล่าวก็จะรับผลกระทบเรื่องราคาที่ดินตกต่ำอีกด้วย ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีราษฎรอาศัยอยู่จำนวนหนาแน่น ซึ่งในภายภาคหน้าลูกหลานของชาวชุมชน มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ประกอบกับราษฎรบางส่วนมีที่ดินบริเวณข้างเคียงที่ดินดังกล่าวอยู่หลายราย ซึ่งต่อไปลูกหลานจะต้องปลูกบ้านเรือนอาศัยอยู่บริเวณนี้ในอนาคตอย่างแน่นอน ซึ่งสอดรับกับเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำริของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะใช้ที่ดินบริเวณนี้มาทำเป็นสถานทีเก็บศพพักศพ จึงขอฝากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาความเรียกร้องต้องการของราษฎรหมู่ 2 บ้านถ้ำ อย่างจริงจัง ถ้าหากมีการดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อเนื่องโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของชาวบ้านถ้ำ ชาวบ้านถ้ำก็พร้อมที่จะดำเนินการคัดค้านโครงการดังกล่าวอย่างถึงที่สุด
ด้าน นายสุวิทย์ ทองยวญ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านถ้ำ ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา กล่าวว่า ในการดำเนินโครงการดังกล่าวยังมีอีกหลายขั้นตอน ที่สำคัญต้องผ่านเวทีประชาคมในการรับฟังความคิดเห็นความเห็นของชาวบ้าน ถ้าชาวบ้านในพื้นที่ลงความเห็นเป็นเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย โครงการดังกล่าวจะเกิดขึ้นในพื้นที่ไม่ได้อย่างแน่นอน ซึ่งจะได้นัดหมายชาวบ้านให้มีการทำประชาคมเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป
ด้านนางเบญจวรรณ ตัมพานุวัตร ประธานมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตเปิดเผยกับผุ้สื่อข่าวว่า ในการที่มูลนิธิฯไปซื้อที่ดินดังกล่าว มีวัตถุประสงค์ เพื่อต้องการขยายหน่วยงานของมูลนิธิฯ ในการปฏิบัติหน้าที่ได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญในภารกิจกู้ชีพ-กู้ภัย ซึ่งได้เข้าไปมีส่วนช่วยเหลือส่วนราชการเป็นอย่างมาก กรณีศพไร้ญาติ ศพที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี ซึ่งมูลนิธิฯจะไปรับมาเก็บไว้ที่ทำงานมูลนิธิฯ โดยการกลบฝังไว้ชั่วคราว จนกว่าญาติจะมารับไป ในส่วนที่มูลนิธิฯเก็บไว้และไม่มีญาติ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะทำพิธีฌาปนกิจ โดยอาจจะนำไปดำเนินการร่วมกับส่วนที่เก็บรักษาไว้ที่มูลนิธิฯจังหวัดภูเก็ตพร้อมกัน และในเมื่อชาวบ้านในพื้นที่ไม่ต้องการทางมุลนิธิก็พร้อมที่จะยกเลิกการดำเนินการก่อสร้างเช่นกัน
รายงานโดย...อย้าโกบ(ดีเจ.บังดำ)หอมรสกล้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป