ชาวทับละมุ จ.พังงา สุดทนหลังจากฐานทัพเรือพังงาปิดถนน ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถอพยพออกจากจุดเสี่ยงภัยคลื่นยักษ์สึนามิ เผยหากเกิดขึ้นจริง ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวล้มตายจำนวนมากแน่นอน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 เม.ย.55 ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ทับละมุ ตำบลลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา จำนวนมาก ได้รวมตัวกันที่บริเวณหน้าโรงเรียนพระราชทานทับละมุ ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับประตูหน้าฐานทัพเรือพังงา เพื่อเรียกร้องฐานทัพเรือพังงาออกมารับผิดชอบกรณีปิดถนนสายทับละมุ-ลำแก่น โดยชาวบ้านที่มาชุมนุมในครั้งนี้อ้างว่า เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ในช่วงที่มีการประกาศเตือนให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปมา และเป็นเส้นทางอพยพหลบภัยสึนามิ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวไม่สามารถอพยพหลบภัยได้ โดยชาวบ้านชุมนุมเรียนร้องนานกว่า 3 ช่วงโมง โดยมีนายนายขันตี ศิลปะ ปลัดจังหวัดพังงา พร้อมด้วยนายประพฤทธิ์ ยูถนันท์ นายอำเภอท้ายเหมือง ได้ลงมารับหนังสือร้องเรียนของชาวบ้าน
นายเอกชัย ขาวสู่ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 572/16 หมู่ที่ 5 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กล่าวถึงการออกมารวมตัวเพื่อเรียกร้องในครั้งนี้ ก็เนื่องจากเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่บริเวณทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา และมีการเตือนให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย แต่ปรากฏว่า ในช่วงดังกล่าวทางฐานทัพเรือพังงาได้นำรถแบ็กโฮของฐานทัพมาปิดถนนทางหลวงชนบทสายทับละมุ-ลำแก่น ซึ่งเป็นเส้นเดียวที่ชาวบ้านใช้สัญจรออกสู่ถนนสายหลัก ทำให้ชาวบ้านที่อพยพตามแผนอพยพไม่สามารถออกไปจากพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิได้
ซึ่งในช่วงดังกล่าว หากเกิดเหตุคลื่นยักษ์สึนามิขึ้นจริง จะทำให้ชาวบ้านที่ไม่ได้ออกไปสู่พื้นที่ปลอดภัยจากหมู่บ้านทับละมุต้องเสียชีวิตเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน และขณะนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ยังแตกตื่น และหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะยังมีเหตุแผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากในช่วงที่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง และมีการประกาศให้ชาวบ้านอพยพ แล้วทางฐานทัพเรือมาปิดถนน อีกชาวบ้านก็ไม่รู้จะอพยพออกไปได้อย่างไร และถ้าหากมีเหตุการณ์สึนามิถล่มเกิดขึ้นจริง ชาวบ้านจะต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวนมากเพราะไม่สามารถอพยพออกไปได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยด่วน
ขณะที่ น.ส.ประภา ประดับเหลือง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72/16 หมู่ที่ 5 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กล่าวว่า ตนเองเป็นคนหนึ่งที่ได้รับความเดือดร้อนในวันเกิดเหตุแผ่นดินไหว เมื่อทางศูนย์เตือนภัยพิบัติได้แจ้งให้ชาวบ้านอพยพแล้ว ชาวบ้านก็รีบเก็บข้าวของเพื่ออพยพ แต่เมื่อออกจากบ้านมาแล้วกลับต้องมาติดอยู่บนถนน เพราะทางทหารไม่ยอมเปิดเส้นทางให้ชาวบ้านอพยพออกไป ซึ่งทำอย่างนี้ไม่ถูกต้อง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยด่วนที่สุด
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป