นายชิงชัย เพชรพิรุณ เกษตรจังหวัดพังงา กล่าวว่า จากคำขวัญจังหวัดพังงา ที่ว่า “แร่หมื่นล้าน บ้านกลางน้ำ ถ้ำงามตา ภูผาแปลก แมกไม้จำปูน บริบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ” จากคำขวัญนี่เอง จึงเกิดเป็นแนวคิด ที่จะขายความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติของจังหวัด ซึ่งมีแหล่งผลิตอาหารมากมาย จนสามารถกลายเป็นครัวอันดามัน โดยการจัดทำตลาดวังหม้อแกงที่มีอยู่เดิม ให้กลายเป็นตลาดน้ำเค็ม ขยายเส้นทาง มีลานจอดรถ บริการครบวงจร รองรับการท่องเที่ยวในอนาคต
จากการเลียนแบบตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม และตลาดน้ำดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ซึ่งทั้งสองจังหวัด พ่อค้าแม่ค้าจะนำสินค้าลงเรือแล้วพายขายนักท่องเที่ยว แต่ตลาดน้ำเค็ม จังหวัดพังงา ตลาดแห่งแรกที่จะได้กินอาหารทะเล ปลอดสารพิษ อาหารสด รสชาตดี มีคุณภาพ พร้อมสินค้าจากกลุ่มชุมชนต่างๆในพื้นที่วางจำหน่าย เชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางทะเลด้วยการล่องเรือชมธรรมชาติ อู่ต่อเรือ ชมถ้ำลอด ปูมดแดง ปูไข่ ชมป่าชายเลนที่มีพืชพันธ์ไม้ที่สมบูรณ์ อาทิ จิกทะเล โกงกาง เป็นต้น ทั้งยังฟื้นฟูให้เป็นแหล่งของพันธ์ปลาตีน ที่จะหาดูได้ยากต่อไปในอนาคต และเพื่อเป็นการรองรับนักท่องเที่ยวอย่างครบวงจร ยังจัดให้มีโฮมสเตย์เป็นที่พัก และ สปารูปแบบต่างๆ ไว้บริการอีกด้วย เกษตรจังหวัดพังงา กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดสร้างตลาดน้ำเค็มนั้น ใช้งบกลุ่มจังหวัด งบประมาณปี พ.ศ.2554 ประมาณ 15 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการฯวางแผนตลาดน้ำเค็ม โดยเกษตรจังหวัดเป็นประธาน ได้ปรับงบประมาณ ประจำปี 2553 ที่ได้รับงบส่งเสริมเพื่อการเกษตร ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง ปี 2555 ซึ่งเกษตรจังหวัดพังงา ได้รับงบมาปรับปรุงศูนย์เรียนรู้การเกษตร ภูมิปัญญาแห่งแผ่นดินขยายผลสู่ปวงชนชาวไทย ที่อำเภอนบปริง จำนวน 56 ล้านบาท นำงบส่วนหนึ่ง จัดสร้างในระยะแรกก่อน ซึ่งคาดว่าตลาดน้ำเค็มจะแล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์ในเดือนมกราคม 2555
ข้อมูลจาก :: ไอศยา สินบุษกร สวท. พังงา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป