เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2555 ที่เรือนจำจังหวัดพังงา พต.รัฐกฤษ ใจจริง ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพังงา ได้เชิญญาติของนายคำนึง พลพฤกษ์ ผู้ต้องหาในคดีพยายามฆ่า ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมีนายมนตรี พลพฤกษ์ พี่ชายผู้ตาย พร้อมด้วยนายมายมานพ นำพา ผญบ.หมู่ที่ 1 นายปกรณ์ สุกใส ผญบ.หมู่ที่ 2 ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา นายวีระ พลพฤกษ์ ส.อบต.ท้ายเหมืองและรตอ.คะแนน สมรักษ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี และสื่อมวลชน เข้ารับฟังการชี้แจงพร้อมตรวจสอบสถานที่คุมขัง และสอบถามอาการต่างๆก่อนที่จะเกิดอาการป่วยจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลพังงา
พต.รัฐกฤษ ใจจริง กล่าวว่าหลังจากนายคำนึง พลพฤกษ์ได้หลบหนีออกจากเรือนจำเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา และได้เข้ามอบตัวเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม นั้น ทางเรือนจำพังงาได้แยกควบคุมไว้ที่สถานพยาบาลภายในเรือนจำเพื่อป้องกันการถูกทำร้ายหรือเหตุอันไม่คาดคิดพร้อมกันนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ให้เกิดเหตุร้ายใดๆกับผู้ตายและผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาก็ได้กำชับว่าห้ามทำร้ายผู้ต้องขังอย่างเด็ดขาด ตนขอยืนยันว่าการเสียชีวิตครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการถูกทำร้ายอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ดีเพื่อให้ทราบสาเหตุของการตายอย่างชัดเจนและเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย จึงส่งส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่ หน่วยนิติเวชและพิษวิทยา โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ด้านนางจตุพร เบญจเลิศยานนท์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ เรือนจำจังหวัดพังงาเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตได้เริ่มมีอาการไข้เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม จึงได้ทำการตรวจรักษาพร้อมทั้งเจาะเลือดและเก็บปัสสาวะไปตรวจ ต่อมาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม คณะแพทย์จากโรงพยาบาลพังงาได้เข้าตรวจสุขภาพของผู้ต้องขังประจำเดือน จึงได้จัดให้พบแพทย์ด้วย ซึ่งผลการตรวจพบว่ามีอาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะและมีภาวะขาดน้ำ จึงให้น้ำเกลือและยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือด และหมอได้แนะนำให้ส่งตรวจโดยละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาล ต่อมาในช่วงก่อนเที่ยงคืนของวันเดียวกัน ผู้ตายได้มีอาการ ตัวร้อน แน่นหน้าอก หายใจลำบากและอาเจียนเป็นเลือด ตนและเจ้าหน้าที่จึงรีบให้การช่วยเหลือพร้อมนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ และได้สียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.เศษ โดยแพทย์ระบุความเห็นว่า เสียชีวิตเนื่องจากช็อคจากการเสียเลือดมาก หรืออาจเกิดจากโรคฉี่หนู
นายมนตรี พลพฤกษ์พี่ชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับการชี้แจงของทางเรือนจำ แต่ตนก็ขอนำศพน้องชายไปตรวจพิสูจน์ก่อนจได้นำมาประกอบพิธีทางศาสนา และจะรอผลการตรวจพิสูจน์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงโดยตนและญาติพร้อมที่จะยอมรับในผลการตรวจครั้งนี้
รายงานโดย...อย้าโกบ(ดีเจ.บังดำ)หอมรสกล้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป