เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2555 ดร.ศุภชัย เหลืองแสงทอง รองผู้ว่าราชการ จังหวัดพังงา นำตัวแทนหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันประกอบพิธีวางพวงมาลาดอกไม้ต่อหน้าพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย ที่บริเวณลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สวนสมเด็จพระศรีนครินฯ อ.เมือง จ.พังงา เนื่องในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคต เพื่อน้อมรำลึกถึงสมเด็จย่า รวมทั้งแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระนามเดิม "สังวาลย์" ทรงพระราชสมภพที่ จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2443 ในพระชนกชู และพระชนนีคำ ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างทอง เมื่อทรงพระเยาว์ได้ทรงศึกษาในโรงเรียนวัดอนงคาราม ต่อมาทรงย้ายไปศึกษาที่โรงเรียนศึกษานารี และโรงเรียนสตรีวิทยา ตามลำดับ เมื่อจบการศึกขั้นต้นแล้ว ได้เข้ารับการศึกษาต่อในโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาลแห่งศิริราช จนจบหลักสูตร 3 ปี การศึกษาตามเส้นทางสายอาชีพสายนี้เป็นเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ในพระชนม์ชีพ ซึ่งจะถือเป็นพระราชบุพเพสันนิวาสบันดาลก็เป็นได้ เพราะหลังจากที่ศึกษาจบเพียงไม่กี่เดือน สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี ได้พระราชทานทุนเล่าเรียน เพื่อคัดเลือกนักเรียนพยาบาลไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา ตามพระประสงค์ของพระราชโอรส คือ สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ ซึ่งในขณะนั้นพระองค์กำลังทรงศึกษาวิชาแพทย์ศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มลรัฐแมสสาซูเสตต์ ในการนี้ นางสาว สังวาลย์ และนักเรียนพยาบาลอีกผู้หนึ่งที่ได้รับคัดเลือกไปศึกษาต่ออันเป็นเหตุให้ได้เข้าเฝ้าสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช เป็นครั้งแรก ด้วยพระจริยาวัตรอันงดงามจึงเป็นที่สนิทเสน่หาในเวลาต่อมา เมื่อเสด็จเดินทางกลับประเทศไทยใน พ.ศ.2462 จึงได้มีพิธีอภิเษกสมรสที่วังสระปทุม ซึ่งพระนามของพระองค์ท่านในขณะนั้นคือ หม่อมสังวาลย์ มหิดล ณ อยุธยา ภายหลังจากที่พระองค์ได้ทรงอภิเษกสมรสแล้ว ได้ทรงศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา และตามเสด็จไปยังที่ต่าง ๆ ได้ทรงให้กำเนิดพระธิดาและพระโอรสรวม ๓ พระองค์ ในช่วงเวลาต่อมาได้แก่ หม่อมเจ้า กัลยาณิวัฒนา หม่อมเจ้าอานันทมหิดล และ หม่อมเจ้ามหิดลอดุลยเดช
สมเด็จย่านับเป็นพระราชมารดาผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งทรงรับพระราชภาระเพื่อประเทศชาติ ในการถวายอภิบาลพระราชโอรส ซึ่งต่อมาได้เถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ ถึง 2 พระองค์ ตลอดพระชนม์ชีพพระองค์ ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อประชาชน ในงานด้านสาธารณสุขและทันตสาธารณสุขตลอดมา ทรงมีความห่วงใยตำรวจตระเวนชายแดน ทรงจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกไปรักษาดูแลสุขภาพของประชาชนในถิ่นทุรกันดารเป็นประจำตลอดพระชนม์ชีพ ที่ผ่านมาพระองค์ทรงดำรงไว้ซึ่งความมีพระเมตตาต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่าอย่างหาที่สุดมิได้ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2538
รายงานโดย...อย้าโกบ(ดีเจ.บังดำ)หอมรสกล้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป