วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ทนายความชื่อดัง นำประชาชนปลูกกล้ายางบนถนน 7 ชั่วโคตร สายพังงา – ทับปุด

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 11 มิถุนายน 2554 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสนามหญ้าหน้าศาลากลางจังหวัดพังงา(หลังเก่า) อ.เมือง จ.พังงา มีการจัดเวทีปราศรัยเรื่อง”6 ปี ความทุกข์ระทม ถนน 7 ชั่วโคตร สายพังงา – ทับปุด” นำโดยนายธำรงศักดิ์ บุญรักษ์ หรือ ทนายอุ๊ ทนายความชื่อดังจังหวัดพังงา มี นายศุภศักดิ์ โภคบุตร นักธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ขึ้นเวทีร่วมปราศรัย โดยมีตำรวจชุดปฏิบัติการอำนวยความสะดวกด้านจราจร ชุดรักษาความปลอดภัย ชุดติดตามสถานการณ์ หาข่าว ทั้งนอก – ใน เครื่องแบบ จาก สภ.เมืองพังงา และมีประชาชนเข้าร่วมรับฟังจำนวนประมาณ 100 คน ทั้งนี้ สำหรับเนื้อหาการปราศรัยเกี่ยวกับการสร้างถนนที่ล่าช้า และได้สร้างความสูญเสียให้กับชีวิต ทรัพย์สินของประชาชนผู้สัญจรบนถนนสายนี้ไปเป็นจำนวนมาก โดยเรียกร้องให้เร่งดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยไว ภายหลังเสร็จสิ้นการกล่าวปราศรัย ผู้เข้าร่วมทั้งหมดได้พากันเดินทางไปยังถนนสายพังงา – ทับปุดบริเวณกิโลเมตรที่ศูนย์(สามแยกวังหม้อแกง) และร่วมกันนำต้นกล้ายางพาราไปปลูกบนพื้นผิวถนน ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ

นายธำรงศักดิ์ บุญรักษ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นเพียงกระตุ้นเตือนให้ส่วนที่รับผิดชอบโครงการก่อสร้างถนนสายนี้ ได้รีบเร่งโครงการฯให้แล้วเสร็จ เพื่อจะได้ถนอมชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่ต้องอาศัยเส้นทางสายนี้ ขณะเดียวกันในระหว่างการก่อสร้างก็ให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันดูแลความปลอดภัยประชาชนอย่างเข้มข้นด้วย ที่ผ่านมา พ่อ และ ลูกสาวอันเป็นสุดที่รักของตนเอง ก็ต้องมาเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุบนถนนสายนี้เช่นกัน “ผมไม่ต้องการให้ใครต้องมาสูญเสียและเจ็บปวดเหมือนผม” ทนายความชื่อดังจังหวัดพังงา กล่าว

ด้าน นายอย้าโกบ หอมรสกล้า สมาชิกชมรมผู้สื่อข่าวจังหวัดพังงา กล่าวว่า ถนนดังกล่าวเป็นทางหลวงหมายเลข 4 เลขที่ 4515 สายพังงา-กระบี่ ตอนที่ 2 ในส่วนที่ 1 มีความยาวคิดเป็นระยะทาง 21.6 กิโลเมตร ก่อสร้างมานานร่วม 6 ปีแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ สำหรับถนนสายนี้มีประชาชนใช้สัญจรเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมระหว่าง จังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา และ จังหวัดภูเก็ต ซึ่งในระหว่างกำลังก่อสร้างได้มีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทำให้มีผู้คนต้องสูญเสียชีวิตไปแล้วจำนวนไม่ต่ำกว่า 40 ราย มีผู้บาดเจ็บพิการนับร้อย และพบว่ามีทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมากมาย ช่วงที่ผ่านมาได้มีชาวบ้านร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับจังหวัด กรม และกระทรวง หลายครั้งแต่ไม่ได้รับการตอบสนองให้เป็นไปตามคำร้องเท่าที่ควร เช่น ไม่มีไฟฟ้าส่องเส้นทางจุดเสี่ยงในช่วงกลางคืน, เส้นทางเบี่ยงที่ไม่ได้บอกก่อนล่วงหน้าหรือมีป้ายบอกในลักษณะกระชั้นชิด, กลางคืน เส้นทางต่างระดับไม่มีป้ายเตือนว่าเป็นเส้นทางต่างระดับ เป็นต้น ส่วนสาเหตุทราบว่า เนื่องจากผู้รับเหมางานเกิดภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงิน โดยสถาบันทางการเงินของบริษัทผู้รับเหมาไม่ปล่อยสินเชื่อ จึงเกิดการหยุดชะงักของโครงการฯ

“การที่ถนนสายนี้เป็นโครงการของรัฐและทำให้ประชาชนต้องสังเวยชีวิตไปจำนวนมากเช่นนี้ ขณะที่ยังไม่ทราบว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไร นับว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนมากจริงๆ จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้ามาช่วยดูแลและแก้ปัญหาให้ชาวบ้านด้วย”




ข้อมูลจาก...เผด็จศักดิ์ เอี่ยมสกุล ข่าวพังงา 08 1728 7711

1 ความคิดเห็น:

ความคิดเห็นทั่วไป