วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
เปิดงานสมโภชศาลหลักเมืองพังงา คึกคัก
เมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 1 พฤษภาคม 2554 ที่บริเวณถนนเพชรเกษมหน้าศาลหลักเมืองจังหวัดพังงา อ.เมือง จ.พังงา นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานพิธีเปิดงานสมโภชศาลหลักเมืองพังงา โดยมีนายธานี ปลูกเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นางสมศรี รักนุ้ย วัฒนธรรมจังหวัดพังงา นางปราณี รัตนประยูร พัฒนาการจังหวัดพังงา นายฉกาจ พัฒกิจวิบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนชาวจังหวัดพังงาและจังหวัดข้างเคียง เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ จะจัดให้มีพิธีสมโภชศาลหลักเมืองขึ้น ในวันที่ 7 พ.ค. 54 เวลา 10.30 น. ณ.ศาลหลักเมือง สำหรับภายในงานจัดให้มีนิทรรศการการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดพังงา การจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง อาหารพื้นเมือง และมีมหรสพให้ชมฟรีตลอดงาน อาทิ การแสดงบนเวทีของวิทยาลัยนาฏศิลปะพัทลุง นำโดยอาจารย์ สวรส ศุกรกาญจน์ รอง ผอ.ฝ่ายศิลปวัฒนธรรม การแสดงดนตรี มโนราห์ หนังตะลุง ภาพยนตร์กลางแปลง งานเริ่มตั้งแต่ วันที่ 29 เมษายน 2554 ถึง 7 พฤษภาคม 2554 พิธีเปิดมีการจุดพลุเฉลิมฉลองจำนวน 99 นัด อย่างสวยงามอลังการบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่เข้าร่วมงานครั้งนี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงากล่าวว่า ศาลหลักเมืองถือเป็นสิ่งคู่บ้านคู่เมืองชาวพังงา และเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนในพื้นที่จังหวัดพังงารวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน การจัดงานสมโภชศาลหลักเมืองเป็นประจำทุกๆปีถือเป็นการแสดงความเคารพศรัทธาความเชื่อในบุญบารมีของเจ้าแม่สายทองที่ได้มีเมตตาต่อชาวพังงาให้อยู่ด้วยกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา และประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงาให้เป็นที่รู้จักแก่สาธารณชนเพิ่มขึ้น จึงขอแสดงความชื่นชมกับทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดงานในครั้งนี้ นับว่าเป็นสิ่งดีงาม แสดงให้เห็นถึงความรักความสามัคคี ความหวงแหน และความภาคภูมิใจของชาวพังงา
สำหรับศาลหลักเมืองพังงา เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2544 ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน เป็นศิลปะแบบผสม ขนาดของฐานศาลหลักเมือง 16 X 16 เมตร ตั้งฐานสูงจากลานทักษิณจนถึงยอดปรางค์ 17.99 เมตร ฐานเป็นฐานศิลปศรีวิชัย ความสูงจากลานทักษิณจนถึงพื้นอาคาร 1.60 เมตร เป็นแบบจตุรมุข ซึ่งแต่ละมุขมีบันไดจากฐานทักษิณจนถึงลานพื้นทั้ง 4 ด้าน และลานพื้นอาคารกับพื้นบันไดปูด้วยหินอ่อน ตัวอาคารเป็นอาคารจตุรมุข เป็นศิลปกรุงรัตนโกสินทร์ โดยแต่ละมุขจะยื่นออกมาแต่ละทิศ หลังคาโค้งมุงด้วยกระเบื้องลูกฟูกปูนปั้น ทรงปราสาทศิลปขอมตามคติ "เทวราช" เหนือหลังคาส่วนกลางอาคาร สร้างยอดปรางค์องค์ ซึ่งเป็นยอดประธาน เหนือหลังคาส่วนที่มุขยืนสร้างยอดปรางค์เป็นองค์บริวาร หรือปรางค์ทิศลักษณะ องค์ปรางเป็นศิลปลพบุรี เรียกว่า "เบญจปรางค์"
ข้อมูลจาก...อย้าโกบ หอมรสกล้า ผู้สื่อข่าวพลังชนจังหวัดพังงา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป