วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2554

ชาวบ้านย่าหมีตะลึง พบนายทุนตัดถนนในพื้นที่ป่าต้นน้ำ

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 26 มีนาคม 2554 นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านย่าหมี ม.3 ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา จำนวนประมาณ 100 คน พร้อมกับนายต้าเหยบ ชลหัตถ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 นายสมเดช สืบพงษ์ กำนันตำบลเกาะยาวใหญ่ และนายประวิช ช่วยหมุด เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่า จ.พังงา ได้รวมตัวพากันเดินเท้าขึ้นภูเขา เพื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่บนสันเขาหินถ้ำ ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาช่องหลาด- ป่าเกาะยาวใหญ่ อ่าวคลองสน ม. 3 ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว พบว่ามีการใช้รถแบ็คโฮทำการตัดถนนเป็นเส้นตรงบนสันเขาขนาดความกว้างประมาณ 5 เมตร ยาวประมาณ 400 เมตร นอกจากนั้นยังตัดถนนซอยแยกจากถนนหลักในพื้นที่ป่าดงดิบ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นป่าต้นน้ำของเกาะยาวใหญ่รวมเนื้อที่ทั้งหมดหลายพันไร่

นายต้าเหยบ ชลหัตถ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 กล่าวว่า ตนเองไม่คาดคิดว่าจะมีใครกล้าหาญเข้าดำเนินการในเรื่องของการตัดไม้ทำลายป่า เพราะปัจจุบันชาวบ้านมีความตื่นตัวและได้ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้มาก โดยเฉพาะภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวและเกิดคลื่นสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น ได้สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งทรัพย์สินของชาติไปเป็นจำนวนมากมาย ซึ่งความเป็นจริงหลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิในเมืองไทย เมื่อปี 2547 ชาวบ้านฝั่งทะเลอันดามัน ก็มีความตื่นตัวมากแล้ว แต่เมื่อเกิดขึ้นที่ญี่ปุ่นซ้ำขึ้นมาอีก และยังเกิดขึ้นในหลายแห่งของโลกติดตามมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านเล็งเห็นความสำคัญและผนึกกำลังกันรักษาป่าอย่างจริงจัง แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมนายทุนถึงได้ทวนกระแสอนุรักษ์ของชาวบ้านชนิดต่างขั้วกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในพื้นที่เกาะยาว จะต้องรายงานให้นายอำเภอเกาะยาว และ นายธำรง เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ทราบ ขณะเดียวกันกับหน่วยป้องกันรักษาป่าที่เดินทางไปด้วยกันก็จะได้รายงานต้นสังกัด เพื่อหามาตรการในการป้องกัน ควบคู่กับการใช้วิธีการปราบปรามไปด้วยกัน

“ชาวบ้านที่ขึ้นไปเห็นของจริงการบุกรุกสร้างถนน ทุกคนถึงกับตลึง คาดไม่ถึงว่านายทุนจะมีความฮึกเหิมไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองถึงขนาดนี้ ที่จริงแม้จะคิดว่ากฎหมายทำอะไรไม่ได้ก็จริง ก็ควรจะคิดบ้างว่า ภัยธรรมชาติที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกสักวันหนึ่งก็จะมาถึงที่นี่ เพราะการที่ไปตัดถนนในพื้นที่ป่าทึบที่ยังมีความสมบูรณ์มาก เรื่องนี้ทุกคนที่ยังมีความห่วงใยในลูกหลานที่จะมีชีวิตต่อไปในอนาคตรวมคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมือง จะนิ่งเฉยอยู่ไม่ได้แล้ว ต้องมีมาตรการในการดำเนินการกับกลุ่มทุนกลุ่มนี้ ก่อนที่ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองมากกว่านี้”

ข้อมูลจาก...อย้าโกบ หอมรสกล้า ผู้สื่อข่าวพลังชนพังงา

2 ความคิดเห็น:

  1. ที่ถูกกฎหมายโว้ย ไอ้ฟายชนบท

    ตอบลบ
  2. ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ตัดไม้ทำลายป่า ทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างขาดจิตสำนึกมากกว่า เรื่องถูกหรือผิดกฏหมายนั้นไม่สำคัญ..เพราะใครๆก็รู้ว่ามันไม่สำคัญ...หึ หึ..

    ตอบลบ

ความคิดเห็นทั่วไป