พังงาสนธิกำลังจากหลายหน่วยงาน เข้าทำลายรื้อถอนต้นปาล์มน้ำมัน ที่ปลูกบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๔
นายสุรินทร์ เพชรสังข์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาเป็นประธานและสักขีพยานการทำลายรื้อถอนต้นปาล์ม ณ คลองบ้านท่าซอ หมู่ที่ ๕ ตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง โดยมีการสนธิกำลังจาก ๓ หน่วยงาน คือ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี นาวิกโยธินจากฐานทัพเรือพังงา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กว่า ๕๐ นาย เข้าร่วมทำลายรื้อถอนต้นปาล์มที่บุกรุกพื้นที่ป่าของอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง
เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ โดยการนำของ นายวัฒนา พรประเสริฐ เจ้าพนักงานป่าไม่อาวุโสทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง พบร่องรอยการบุกรุกตัดฟันต้นไม้และจับกุมผู้ต้องสงสัย ได้ ๖ คน อาศัยอยู่ในเขตอำเภอท้ายเหมืองทั้ง ๖ คน ซึ่งคนกลุ่มดังกล่าวแจ้งว่าได้รับจ้างแผ้วถางป่าเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน จึงนำไปสู่การรื้อถอนในครั้งนี้อาศัยอำนาจตามมาตร ๒๒ แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๔ ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งอื่นใดที่ผิดไปจากสภาพเดิมออกไปให้พ้นอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง หรือให้ทำสิ่งนั้นๆ กลับคืนสู่สภาพเดิมแล้วแต่กรณีและให้รื้อถอนต้นปาล์มออกให้หมดในพื้นที่บุกรุกภายในวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ โดยมีหนังสือแจ้งเตือนให้รับทราบ
ด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงากล่าวว่า รัฐบาลได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังดูแลผู้บุกรุกอยู่แล้วซึ่งปัจจุบันราคายางพาราและปาล์มน้ำมันพุ่งสูงมากเป็นสิ่งจูงใจให้มีการบุกรุกป่าในเขตพื้นที่ดังกล่าว การบุกรุกมีทั้งชาวบ้านและนายทุน ถ้ามีการบุกรุกของชาวบ้านก็มีการจำกัดพื้นที่ไม่ให้มีการรุกต่อไปโดยใช้หลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ซึ่งจะมีการปรับสภาพให้คืนสู่สภาพเดิม โดยพื้นที่ดังกล่าวมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติอยู่มาก ในกรณีนี้เป็นการรื้อถอนทำลายไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
ข้อมูลจาก :: เสรี นาวงศ์ ส.ปชส.พังงา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป