วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งทะเลพังงาได้รับความเดือดร้อนจากมติคณะรัฐมนตรีที่เห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด


นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายพีระ อ่าวสมบูรณ์ ประมงจังหวัดพังงา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรชายฝั่งและทะเลอันดามัน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนชมรมผู้เลี้ยงกุ้ง และตัวแทนผู้ประกอบการเลี้ยงกุ้งชายฝั่งในจังหวัดพังงา เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด หลังจากมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๓ ที่ผ่านมาว่า เพื่อระงับการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำระบบความเค็มต่ำในพื้นที่น้ำจืด เป็น เพื่อระงับการใช้ความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืด

ทำให้ส่งผลกระทบต่อผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของจังหวัดพังงา โดยเฉพาะจังหวัดพังงาพบว่าไม่มีการจัดโซนพื้นที่ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ทำให้ ๗ อำเภอ คือ อำเภอเมืองพังงา อำเภอทับปุด อำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอเกาะยาว อำเภอท้ายเหมือง อำเภอตะกั่วป่า และอำเภอคุระบุรี ที่มีพื้นที่ติดกับทะเลไม่สามารถเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลต่างๆโดยเฉพาะกุ้งกุลาดำและกุ้งขาว ทั้งที่ความเป็นจริงมีผู้เพาะเลี้ยงกุ้งจำนวนไม่ต่ำกว่า ๗,๐๐๐ บ่อ และทำให้เกิดความไม่พอใจของผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง

ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาได้สั่งการให้ทางประมงจังหวัดพังงาได้รวบรวมหนังสือจากผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าวเพื่อส่งให้ทางจังหวัดพังงาเนื่องจากผู้เลี้ยงกุ้งจะได้รับความเดือดร้อนหากมีการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมทั้งให้จังหวัดพังงาจัดโซนการยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเรื่องดังกล่าวทั้งจังหวัดยกเว้นอำเภอกะปงที่ไม่มีพื้นที่ติดทะเลให้ทางคณะรัฐมนตรีได้รับทราบเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเค็มในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่น้ำจืดหรือชายฝั่งของผู้เลี้ยงกุ้งในจังหวัดพังงาสามารถเพาะเลี้ยงได้เหมือนดังเดิม

ข้อมูลจาก :: เสรี นาวงศ์ ส.ปชส.พังงา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นทั่วไป