เกิดพายุหมุนในบริเวณวัดถ้ำสุวรรณคูหา อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา เป็นเหตุให้ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับ รถยนต์ ศาลาและกีดขวางการจราจรทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาเที่ยวในวัดต้องรอเจ้าหน้าที่ตัดต้นไม้ที่ล้มกีดขวางนานนับชั่วโมงจึงสามารถสัญจรผ่านได้
ในขณะที่อำเภอตะกั่วป่าบริเวณถนนหลักกิโลเมตรที่ ๘๑๐-๘๒๑ ต.บางม่วง และ ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงาเกิดพายุหมุนเช่นเดียวกันเป็นเหตุให้ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่นล้มทับรถยนต์ที่สัญจรบนถนนเพชรเกษมได้รับความเสียหายรถติดเป็นทางยาวกว่า ๕ กิโลเมตร ล่าสุดเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยสว่างเมฆาและกำลัง อปพร.หมู่บ้านได้ใช้เครื่องมือเข้าตัดต้นไม้เพื่อนำออกจากการกีดขวางจราจร ทำให้รถที่กำลังจะไป จ.ภูเก็ต จ.สุราษฎร์ธานีและ จ.ระนอง สามารถผ่านได้แล้ว
ทางด้านนายวรพจน์ รัฐสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงารักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า ช่วงระยะเวลา ๒๓-๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๓ นี้ กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัยได้ติดตามตรวจสอบสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น ฝนตกหนักบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากทะเลมีคลื่นสูงในระยะนี้ จึงได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติ ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ในส่วนความเสียหายจากพายุหมุนครั้งนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ส่วนความเสียหายอื่นๆจะเร่งสำรวจให้ความช่วยเหลือต่อไป
ข้อมูลจาก :: เสรี นาวงศ์ ส.ปชส.พังงา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป