สำหรับพระราชกรณียกิจ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทางด้านการแพทย์ พยาบาล การสาธารณสุขและการศึกษาที่พระองค์ท่านได้ตั้งหน่วยและมูลนิธิที่สำคัญ ได้แก่ ๑. หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี(พอ.สว.) เป็นหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ที่เดินทางไปยังถิ่นธุรกันดาร ประกอบด้วยแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และสมาชิกสมทบ ซึ่งไม่ได้รับสิ่งตอบแทนเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือน ๒.มูลนิธิขาเทียมในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จัดตั้งเมื่อ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๓๕ เพื่อทำขาเทียมและพระราชทานให้แก่ผู้พิการขาขาดที่ยากจนในชนบทโดยไม่เลือกชาติศาสนา และไม่คิดมูลค่า๓. มูลนิธิถันยรักษ์ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๓๘ เพื่อใช้เป็นสถานที่ตรวจวินิจฉัยเต้านม๔. ทรงบริจาคเงินเพื่อสร้างโรงเรียนกว่า๑๘๕ โรงและทรงรับเอาโครงการโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนไว้ในพระราชูปถัมภ์
ส่วนพระราชกรณียกิจทางด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทรงสร้างพระตำหนักดอยตุง เนื้อที่ ๒๙ ไร่ ๓งาน ที่บ้านอีก้อป่ากล้วย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ทรงพัฒนาดอยตุงและส่งเสริมงานให้ชาวเขา ได้แก่ ๑.โครงการพัฒนาดอยตุง เมื่อปี ๒๕๓๑ ๒.ทรงพระราชทานกล้าไม้แก่ผู้ตามเสด็จและทรงปลูกป่าด้วยพระองค์เอง ๓.ทรงนำเมล็ดกาแฟพันธ์อาราบิกาและดอกไม้มาปลูก ๔.โครงการขยายพันธ์โดยวิธีเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อหน่อไม้ฝรั่ง กล้วย กล้วยไม้ เห็ดหลินจือ และสตรอเบอรี่ และ๕.จัดตั้งศูนย์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดที่บ้านผาหมี ตำบลเวียงพางคำอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
จากพระราชอุตสาหะดังกล่าวได้ทำให้ยอดดอยที่เคยหัวโล้นด้วยการถางป่าทำไร่เลื่อนลอยและปลูกฝิ่นได้กลับกลายมาเป็นดอยที่เต็มไปด้วยป่าไม้ตามเดิม พระองค์จึงทรงได้รับขนานนามว่า สมเด็จย่าของชาวไทยบนพื้นราบหรือแม่ฟ้าหลวงของชาวไทยภูเขา
ข้อมูลจาก :: เสรี นาวงศ์ ส.ปชส.พังงา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป