จังหวัดพังงาทำลายพืชกระท่อม ร่วม 100 ต้น ยึดของกลางได้กว่าครึ่งตันโดยปลูกไว้ในพื้นที่ ๗ ไร่ใช้ระบบน้ำหยดอย่างดี
นายเยี่ยมสุริยา พาลุสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พล.ต.ต.ชลิต ถิ่นธานี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา นายเดชา กังสนันท์ นายอำเภอตะกั่วป่า พ.ต.อ.ชำนาญ แป้นนาบอน ผู้กับการสถานีตำรวจภูธรตะกั่วป่า นายเฉลา ช่อแก้ว กำนันตำบลคึกคัก นายสวัสดิ์ ตันเก่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคึกคัก พร้อมกำลังตำรวจและอส.กว่า 50 นาย เข้าทำลายพืชกระท่อมจำนวน 95 ต้น ยึดใบกระท่องได้กว่า 600 กิโลกรัม ในพื้นที่บ้านทุ่งขมิ้นหมู่ที่ 4 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ของนายสมโชค แกล้วณรงค์ อายุ 66 ปี บ้านเลขที่30/1 หมู่ที่4 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา แต่ขณะเข้าจับกุมทำลายนายสมโชคได้หลบหนีไปก่อนหน้าเจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึง พบเพียงแรงงานต่างด้าวชาวพม่าจำนวน 6 คน มีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง 4 คน อีก 2 คน ใบอนุญาตการทำงานหมดอายุ จึงควบคุมตัวส่ง ร.ต.ท.โสภณ ช่วยสถิตพนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่าดำเนินคดี ในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ส่วนนายสมโชค ตำรวจจะได้ออกหมายจับตามข้อหาผลิตและครอบครองมีไว้ซึ่งยาเสพประเภท 5 (พืชกระท่อม)และจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
สำหรับพืชกระท่อมดังกล่าวนี้ปลูกในเนื้อที่กว่า 7 ไร่ใช้ระบบน้ำหยดอย่างดี ซึ่งมีอายุการปลูกไม่ต่ำกว่า 6 ปี ซึ่งนายเอียดคนงานชาวพม่าที่กำลังเก็บพืชกระท่อมได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าเจ้าของสวนสามารถขายใบกระท่อมได้วัน 2,500-3,000 บาท ซึ่งจ้างให้พวกตนเก็บตั้งแต่เวลาเช้าถึงเย็นทุกวันได้ค่าจ้าง วันละ 200 บาทต่อคน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นคนทั้งในและนอกพื้นที่
ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาว่า นับว่าเป็นการปลูกหรือผลิตพืชกระท่อมรายใหญ่ที่สุดที่เคยสืบพบและทำลายได้ในจังหวัดพังงา เนื่องจากการสืบทราบของเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งและการขยายผลส่วนหนึ่งของการจับกุมและปราบปรามเกี่ยวกับยาเสพติดประเภท 5 (พืชกระท่อม)ในจังหวัดพังงา ซึ่งสถานการณ์ยาเสพติดประเภทนี้ของจังหวัดพังงานับว่ารุนแรงมาก แต่ก็ได้หาข่าวในเชิงลึกจากการทำประชาคมทางลับในการแจ้งเบาะแส ในโครงการเปิดโอกาสให้ลูกหลานเลิกยาเสพติด ซึ่งนับว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจเพราะมีผู้แจ้งเบาะแสยาเสพติดเข้ามาเป็นจำนวนมาก
ทางด้าน พล.ต.ต.ชลิต ถิ่นธานี กล่าวเสริมในเรื่องเดียวกันว่าขณะนี้ตำรวจได้ทำการข่าวเชิงลึกร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อให้มีการแจ้งเบาะแสยาเสพติดประเภทต่างๆมากขึ้น เพื่อเป็นแนวทางในการกวาดล้างยาเสพติดประเภทต่างๆโดยเฉพาะพืชการท่อมให้หมดไปจากจังหวัดพังงา และขณะนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดพังงาได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปส่งจดหมายโดยตรงไปยังตนเองทางตู้ไปรษณีย์ถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงาโดยไม่ต้องลงชื่อหรือปิดแสตมแต่อย่างใด
นายเดชา กังสะนันท์ นายอำเภอตะกั่วป่า กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า การปราบปรามยาเสพติดทุกชนิดเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ทางราชการตระหนักดี และได้ดำเนินการปราบปรามมาอย่างต่อเนื่อง ได้เปิดการทำประชาคมทางลับในอำเภอตะกั่วป่า เกี่ยวกับการแจ้งเบาะแสยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่องซึ่งขณะนี้ได้ทำต่อไปแล้ว 2 ตำบล ซึ่งจะเร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเสร็จเพื่อจะได้ทราบแหล่งผลิตและมีไว้ครอบครองของยาเสพติดที่จะง่ายต่อการปราบปรามต่อไป
ข้อมูลจาก :: เสรี นาวงศ์ ส.ปชส.พังงา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็นทั่วไป